วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

น้ำพึ่งเรือ ฟรีแลนซ์พึ่งไอที

น้ำพึ่งเรือ ฟรีแลนซ์พึ่งไอที

โลกไอทีทั้งคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ไฮเทคต่างๆอาจจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์เงินเดือนเบื่อที่จะเรียนรู้ แต่สำหรับคนที่เป็น"มือปืน"หรือฟรีแลนซ์ซึ่งประกอบอาชีพอิสระไม่สังกัดใคร การใช้ไอทีในการทำมาหากินคือเรื่องสำคัญที่ถือว่าจะต้องเรียนรู้ต่อไปห้ามหยุดห้ามขี้เกียจ เพราะแน่นอนว่ายิ่งเรียนมาก ก็จะยิ่งรู้มาก และยิ่งมีช่องทางรวยมากขึ้นด้วย

สัปดาห์นี้ "สมเกียรติ ลิลิตประพันธ์" จะพาทุกคนไปชมหลายแง่มุมการออนไลน์เพื่อช่วยในการทำงายของชาวฟรีแลนซ์ ซึ่งเมื่ออ่านจบจะพบว่า บทความนี้จะสามารถจุดประกายความคิดให้กับทั้งคนที่เป็นและไม่ได้เป็นฟรีแลนซ์อยู่ได้แน่นอน

***เมื่อ Freelance ใช้ไอทีช่วยทำเงิน
(โดย สมเกียรติ ลิลิตประพันธ์ www.maximumboy.com)

คำว่า Freelance ใน เว็บไซต์ Wikipedia ได้ให้คำนิยามไว้ ว่า “เป็นนายจ้างของตัวเองและไม่มีข้อผูกมัดในระยะยาวกับองค์กรใดๆเป็นระยะเวลานาน ๆ” และสิ่งนี้เองที่คนทำงานหลายท่านต้องการทำงานแบบ Freelance และในยุคที่หนีไอทีไม่พ้น Freelance หลายท่านจึงต้องอาศัยไอทีเป็นที่พึงในการหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม

ครั้งหนึ่งผู้เขียนเองก็เคยได้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งในขณะนั้นต้องอาศัยไอทีในการทำงานมาก เพราะเนื้องานหลักคือการเป็นที่ปรึกษาอิสระในเรื่องด้านการทำตลาดดิจิตอล ตั้งแต่การวางแผนการทำเว็บไซต์ไปจนถึงการทำการตลาดโปรโมทเว็บไซต์ นอกจากนี้ ยังเคยขายของออนไลน์ ซึ่งแน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นไอที

หากถามเรื่องรายได้ ก็คงไม่ถึงกับร่ำรวย แต่ก็อยู่ได้ พอมีพอกิน

สำหรับหนทางที่ Freelance จะเอาไอทีมาใช้นั้น ผู้เขียนขอแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ สองกลุ่ม กลุ่มแรกจะเป็นการนำไอทีมาใช้ในการทำมาหากินโดยตรง และกลุ่มที่สองคือกลุ่มของคนที่ไม่ได้ใช้ไอทีเพื่อหารายได้โดยตรง แต่ต้องอาศัยไอทีเพื่อให้งานหลักสำเร็จ

เกือบทุกขั้นตอนการทำงานของคนกลุ่มแรกจะใช้ไอทีเข้ามาช่วยทำเงิน อาชีพที่พบเห็นได้ก็เช่น นักวางระบบ โปรแกรมเมอร์อิสระ นักพัฒนาเว็บไซต์ นักเขียนโปรแกรมบนมือถือ วิธีการของคนเหล่านี้จะเป็นในลักษณะของการนำไอทีมาใช้แทบจะ 100% และที่เห็นได้ชัดคือการขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตในแบบปิดการขายผ่านเว็บไซต์เลย เช่นพ่อค้าแม่ขายออนไลน์ที่เปิดร้านค้าใน TARAD.com, weloveshopping.com, thaimarketingonline.com, ebay.com ซึ่งคนเหล่านี้ ไม่ว่าจะขายของประเภทดิจิตอลหรือไม่ดิจิตอล สิ่งที่เขาเหล่านั้นต้องทำคือการปรับปรุงข้อมูลบนเว็บไซต์ การรับออเดอร์ ก็ล้วนทำผ่านอินเทอร์เน็ตแทบทั้งสิ้น

จะเว้นก็แต่ในขั้นตอนการส่งสินค้า หากเป็นสินค้าประเภทดิจิตอลเช่น ไฟล์เพลง ไฟล์หนัง e-book ก็สามารถส่งผ่านอินเทอร์เน็ตได้เลย แต่หากเป็นสินค้าที่จับต้องได้คงต้องอาศัยไปรษณีย์ไทย หรือบริการจัดส่งอยู่ดี

นอกจากการหารายได้โดยตรงด้วยเว็บอีคอมเมอร์สแล้ว การเขียนบล็อกและนำโฆษณาประเภท Affiliate ads มาลงในเว็บหรือบล๊อกของตนเองยังคงเป็นวิธีที่ทำกันอยู่แม้ว่าจะน้อยลงไปบ้าง เช่น Google Adsense หรือ Amazon Associates

นอกจากนี้ การใช้ไอทีของคนกลุ่มนี้ยังนำมาใช้ในการหาลูกค้าหรือแนะนำตัวเองให้กลุ่มที่น่าจะมาเป็นลูกค้า เช่น การเปิด Facebook, Twitter หรือ Linked in เพื่อแนะนำตัวเองผ่าน Social Network หรือจะเป็นการเข้าไปแนะนำตัวผ่านเว็บไซต์สำหรับ Freelance เช่น rookienet.com ซึ่งเป็นเว็บของ Freelace สำหรับนักออกแบบ พัฒนา งานกราฟฟิกและเว็บไซต์ ก็ช่วยให้ Freelance หางานได้สะดวกขึ้น

นอกจากนั้น Freelance เองยังสามารถหางานใหม่ๆมาให้ตนเองโดยผ่านเว็บจำพวกประมูลงานเช่น thaifreelancebid.com เป็นต้น

อีกงานหนึ่งที่ Freelance หลายท่านทำกันคือการรับจ้างเขียนบทความ หรือ post ข้อความในเว็บไซต์หรือเว็บบอร์ดต่าง ๆ ในกรณีนี้ ผู้เขียนไม่ได้ยุยงให้ใครไปจ้างโพสก์ข้อความหรือกระทู้แบบ Spam นะครับเพียงแต่ชี้ให้เห็นว่าเป็นอีกหนทางการทำเงินของ Freelance

สำหรับกลุ่มที่สอง หรือกลุ่มของคนที่ไม่ได้ใช้ไอทีเพื่อหารายได้โดยตรง การใช้ไอทีของกลุ่มนี้จะเป็นในลักษณะการใช้ไอทีเพื่อเกื้อหนุนงานของตนเองเพื่อให้หารายได้ง่ายขึ้นหรือเร็วขึ้น คนเหล่านี้อาจจะใช้ไอทีเพื่อค้นหาข้อมูล เช่น การเข้าไปค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเพื่อประกอบการทำงาน เช่น นักออกแบบบ้าน สถาปนิกหาไอเดียจากเว็บไซต์ นักเพื่อช่วยในการตัดสินใจ เพื่อช่วยในการนำเสนองานโดยใช้ powerpoint หรือ Keynote หรือแม้แต่การหางานผ่านเว็บไซต์ประมูลงานข้างต้นที่ได้กล่าวมาแล้ว Freelance เหล่านี้ก็เข้าไปหางานผ่านเว็บไซต์เช่นกัน

หากถามว่า รายได้จากการทำ Freelance โดยอาศัยไอที จะเป็นกอบเป็นกำแค่ไหน อันนี้ก็ต้องอยู่ที่งานที่รับ และความมุ่งหวัง ความตั้งใจของ Freelance แต่ละท่าน บางท่านตั้งใจไว้เลยว่าชาตินี้จะขอเป็นเจ้านายตัวเอง อิสระจากพันธนาการขององค์กร กลุ่มนี้ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำกันจนสามารถตั้งบริษัทของตัวเองเลยก็มี แต่ Freelance บางท่านอาจจะไม่สามารถเรียก Freelance ได้เต็มตัวเพราะยังติดอยู่ที่กับงานประจำอยู่

ความเห็นของคนที่ใช้ไอทีในการสร้างรายได้นั้นส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคืออินเทอร์เน็ตเป็นบ่อเกิดของการสร้างสรรค์และการสื่อสารขั้นเทพ

ธนพร ประสานเสริมส่ง มีประสบการณ์ในทำ Freelance ด้านวิจัยตลาดมากกว่า 11 ปี เธอกล่าวว่า “ ใช้ ไอที ในการทำงาน freelance ในทุกกระบวนการของการทำงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสำเร็จป็นชิ้นงาน เช่น ใช้โปรแกรม Word และ Power Point ในการเตรียม proposal, ใช้ Excel ในการประมวลผล, ใช้ Power Point และ Notebook และ LCD Projector เวลาเสนอผลงานวิจัย, ใช้ Internet เพื่อ search หาข้อมูล เป็นต้น ไอทีจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลย เพราะไอที เป็นสิ่งหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้แสดงความรู้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ คิดง่ายๆว่า คนเราเก่งแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่สามารถแสดงออกได้ ก็จะไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ ในทำนองเดียวกัน หากมีเครื่องมือที่ดีมีคุณภาพ ก็จะช่วยให้คนเราใช้ความสามารถได้เต็มที่ และจะเป็นการต่อยอดให้เกิด idea ในการสร้างสรรค์ผลงานที่บรรเจิดได้อย่างไม่รู้จบ”

นอกจากนี้เธอยังย้ำเรื่องของการใช้ไอทีเข้ามาช่วยว่า “ไม่เคยทำงานโดยไม่มีไอทีเลยค่ะ ” นอกจากนี้ “ไอทียังช่วยให้เพิ่มรายได้ในแง่ของเวลาและกำลังคน เพราะไอทีช่วยให้เราสามารถทำงานได้เต็มที่ในเวลาที่จำกัดและกำลังคนที่น้อยกว่า เป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่หากมองว่าไอทีก็ต้องมีการลงทุนเช่นกัน ก็จะเป็นการลงทุนที่ควบคุมได้ง่ายกว่า ทำให้เป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ไอทีจึงเป็นเสมือนเพื่อนคู่ใจที่ช่วยให้เราทำงานได้อย่างมั่นใจและมีความสุข และความสุขในการทำงานนี้ ถือว่าเป็นกำไรชีวิตอย่างหนึ่ง ”

สำหรับปรานอม สุทธิอำนวยกูล ประกอบอาชีพตัวแทนประกันชีวิตมากว่า 12 ปี ระบุว่าใช้ไอทีในการขายประกันโดยเฉพาะเวลาเช็คผลงานหรือตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดให้ลูกค้า

"ใช้ผ่านเว็บไซด์ของบริษัทฯค่ะ ทำให้ทำงานรวดเร็วขึ้น และสามารถปิดการขายได้ในการพบลูกค้าเพียงครั้งเดียวผ่านหน้าจอค่ะ” เธอเสริม “เมื่อก่อนไม่มีไอทีเข้ามาช่วย ต้องเสียเวลาในการพบลูกค้า 2-4 ครั้งในการปิดการขาย 1 ราย เสียค่าใช้จ่ายและ เวลาในการทำเอกสารเสนอขายมากกว่า” นอกจากนี้ “ไอทีช่วยทำให้รายได้เพิ่มเนื่องจากเวลาในการพบลูกค้าแต่ละรายน้อยลงทำให้สามารถพบลูกค้าได้จำนวนรายมากขึ้นในช่วงเวลาที่เท่ากันเมื่อเทียบกับก่อนไอทีมาใช้ และสามารถเคลียร์ให้ลูกค้าเข้าใจและเห็นภาพมากขึ้นปิดการขายได้มากขึ้น รายได้มากขึ้นค่ะ ”

จะเห็นว่าไอทีนั้นไม่ได้จำกัดไว้สำหรับคนไอทีอีกต่อไปแล้วในปัจจุบัน Freelance หลากอาชีพต่างนำเอาไอทีมาช่วยลดเวลาการทำงาน และเพิ่มเวลาในการหาลูกค้าและทำรายได้เพิ่ม ตามตัวอย่างที่มีให้เห็นมากมาย ขอเพียงแต่ตั้งใจทำและมุ่งมั่นหาความรู้มาสร้างเสริมประสบการณ์ ใช้ไอทีช่วยเสริมสร้างคุณค่าของตนเองได้อีกด้วย

ยิ่งสมัยนี้ แทบจะเรียกว่าความรู้อยู่บนฝ่ามือ ขอเพียงมีโทรศัพท์มือถือไม่ถึงหมื่น เดี๋ยวนี้ก็หาความรู้ผ่านโมบาย อินเทอร์เน็ตได้แล้ว ขอเพียงแต่มีความมุ่งมั่นที่จะทำและซื่อสัตย์ เท่านี้ก็สำเร็จไปครึ่งนึงแล้วครับ





ที่มา
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9530000056700